หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Course Oracle SQL and PL/SQL

Oracle SQL and PL/SQL

ชื่อหลักสูตร         : การพัฒนาระบบงานด้วยภาษา ออราเคิล SQL และ PL/SQL

ประเภท               :  ฐานข้อมูล

จำนวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่า คน และไม่เกิน 10 คน

เวลาฝึกอบรม      :  3 วัน (18 ชั่วโมง)

ช่วงเวลา               :  9:00 – 16:00

ค่าใช้จ่าย               :   6,000 บาท จากราคาปกติ 8,000 บาท หมดเขตุ  30/09/2014

ผู้สอน                    :   วิทยากร มีประสบการณ์ดูแลระบบฐานข้อมูลมากกว่า 10 ปี

วัตถุประสงค์
               
                ในหลักสูตรกล่าวถึงเรื่องพื้นฐานการพัฒนาระบบงานด้วยภาษา SQL ที่ได้กาหนดไว้ตามมาตรฐาน ANSI และ PL/SQL ภาษาโปรแกรมมิ่งที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภาษา SQL ให้มากขึ้นกว่าเดิม  
                เหมาะสาหรับ
ü DBA, Programmer
ü Project Manager, System Analyst, System Designer, Database Designers
ü Technical Consultant, Support Engineer, Sales Consultants

หลักสูตรที่ควรเรียนก่อน
                ü หลักการวิเคราะห์และการออกแบบฐานข้อมูล

หลักสูตรที่ควรเรียนต่อไป
ü การบริหารและจัดการฐานข้อมูลออราเคิล
ü การบริหารการสำรองระบบฐานข้อมูลและการกู้คืนระบบฐานข้อมูลออราเคิล
ü การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานฐานข้อมูลออราเคิล
ü การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภาษาเอส คิว แอล

ประโยชน์ที่ได้รับ
               
ในการอบรมผู้เข้าอบรมจะได้ฟังบรรยายเนื้อหาในหลักสูตรแล้ว ผู้เข้าอบรมจะได้ฝึกปฏิบัติการทำงานกับฐานข้อมูลออราเคิล ตัวอย่างที่ทาง LEARING HUT จัดเตรียมเอาไว้ โดยสัดส่วนเนื้อหาบรรยายกับการฝึกปฏิบัติคือ 1:1 เมื่อผ่าน หลักสูตรพื้นฐานการพัฒนาระบบงานด้วยภาษา SQL และ ORACLE PL/SQL ผู้เข้าอบรมมีความพร้อมในการทาหน้าที่พัฒนาระบบงานด้วยภาษา SQLและ ORACLE PL/SQL รวมถึงสามารถนาไปร่วมใช้งานกับผลิตภัณฑ์อื่นของออราเคิลเพื่อสร้างแอพพลิเคชันฐานข้อมูลได้ทุกรูปแบบได้อย่างสมบูรณ์ หลักสูตร พื้นฐานการพัฒนาระบบงานด้วยภาษา SQL และ ORACLE PL/SQL บนฐานข้อมูลออราเคิล 11g มีระยะเวลา 3 วัน

ตำแหน่งงานที่รองรับ
                ü Developer
                        ü DBA      
ü DBA Application
ü  Database Manager

                รายละเอียดหลักสูตร การบริหารและจัดการฐานข้อมูลออราเคิล

เรียนอะไรบ้าง

ü ก้าวสู่การพัฒนาแอพลิเคชั่นกับฐานข้อมูล Oracle
ü รู้จักและใช้งาน SQL * Plus
ü การใช้งานภาษา SQL
ü การคิวรี่ชั้นสูง
ü SQL เพื่อควบคุมความปลอดภัย
ü SQL เพื่อกาหนดออบเจ็กต์ฐานข้อมูล
ü การทำาทรานแซคชั่น (Transaction) และ พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary)
ü PL/SQL เบื้องต้น
ü PL/SQL ขั้นสูง
ü ทริกเกอร์ (Trigger)
รายละเอียด http://goo.gl/KBo2Zk
สมัครเรียน http://goo.gl/YXwGlZ

Course Basic Oracle DBA

Basic Oracle DBA

ชื่อหลักสูตร         : การบริหารจัดการฐานข้อมูลออราเคิลเบื้องต้น

ประเภท               :  ฐานข้อมูล

จำนวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่า คน และไม่เกิน 15 คน

เวลาฝึกอบรม       :  4 วัน (24 ชั่วโมง)

ช่วงเวลา                :  9:00 – 16:00

ค่าใช้จ่าย                :   6,500 บาท จากราคาปกติ 9,000 บาท หมดเขตุ  30/09/2014

ผู้สอน                    :   วิทยากร มีประสบการณ์ดูแลระบบฐานข้อมูลมากกว่า 10 ปี

วัตถุประสงค์

                ในหลักสูตรกล่าวถึงเรื่องพื้นฐานที่ต้องรู้เกี่ยวกับการบริหารและจัดการฐานข้อมูลออราเคิล เช่น โครงสร้างและสถาปัตยกรรมฐานข้อมูลออราเคิล การ ติดตั้งออราเคิลซอฟแวร์ การสร้างบริหารการจัดเก็บเนื้อข้อมูลบนฐานข้อมูลออราเคิล ระบบรักษาความปลอดภัยในระดับฐานข้อมูลออราเคิล ออราเคิลเน็ตเวิร์ค การปรับแต่งประสิทธิภาพการทางานฐานข้อมูลออราเคิลเบื้องต้นการสารองและกู้คืนข้อมูล เป็นต้น
               
เหมาะสาหรับ
ü DBA, Programmer
ü Project Manager, System Analyst, System Designer, Database Designers
ü Technical Consultant, Support Engineer, Sales Consultants

หลักสูตรที่ควรเรียนก่อน
                ü ระบบปฏิบัติการ ยูนิกซ์  ลีนุกซ์  วินโดวส์
ü ภาษา เอสคิวแอล

หลักสูตรที่ควรเรียนต่อไป
ü การบริหารการสำรองระบบฐานข้อมูลและการกู้คืนระบบฐานข้อมูลออราเคิล
ü การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานฐานข้อมูลออราเคิล
ü การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภาษาเอส คิว แอล

ประโยชน์ที่ได้รับ
                ในการอบรม นอกจากผู้เข้าอบรมจะได้ฟังบรรยายเนื้อหาในหลักสูตรแล้ว ผู้เข้าอบรมจะได้ฝึกปฏิบัติการทางานกับฐานข้อมูลออราเคิล ตัวอย่างที่ทาง NEXTPRO จัดเตรียมเอาไว้ โดยสัดส่วนเนื้อหาบรรยายกับการฝึกปฏิบัติคือ 1:1 การบริหารการจัดการฐานข้อมูลออราเคิลผู้เข้าอบรมมีความพร้อมในการทาหน้าที่ผู้บริหารและจัดการฐานข้อมูลออราเคิลได้อย่างสมบูรณ์

ตำแหน่งงานที่รองรับ
                ü DBA Programmer
ü DBA Application
ü  Database Manager

                รายละเอียดหลักสูตร การบริหารและจัดการฐานข้อมูลออราเคิล

เรียนอะไรบ้าง
ü สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลออราเคิล
ü การติดตั้งออราเคิลซอฟแวร์ และ การสร้างฐานข้อมูลออราเคิล
ü การบริหารและจัดการออราเคิลอินแสตนด์
ü ออราเคิลเน็ตเวิร์ค
ü หน่วยจัดเก็บเนื้อข้อมูลภายในฐานข้อมูลออราเคิล
ü ระบบรักษาความปลอดภัยภายในฐานข้อมูลออราเคิล
ü การบริหารและจัดการความสัมพันธ์ชนิดของข้อมูล
ü การบริหารและจัดการทริกเกอร์PL/SQL, Locking
ü การบริหารและจัดการ Undo Data
ü การตรวจสอบสถิติทางานฐานข้อมูลออราเคิลด้วยเครื่องมือ AWR และ ADDM
ü การปรับแต่งประสิทธิภาพการทางานฐานข้อมูลออราเคิล

ü การสารองและกู้คืนฐานข้อมูลเบื้องต้น
รายละเอียด http://goo.gl/plWI2G
สมัครเรียน http://goo.gl/YXwGlZ

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Framework & Design Pattern ดีอย่างไร

ก่อนที่เราจะมาดูว่ามีเทคโนโลยี อะไรบ้างที่มีการพัฒนาบนพื้นฐานความคิด ของ คำว่า Framework และ Design Pattern
เราต้องทำความเข้าใจถึงที่มา แล้ว ประโยชน์ต่างๆ ทีจะได้รับจากการ พัฒนาโปรแกรม
บนแนวความคิด Framework และ Design Pattern 
และเหนือสิ่งอื่นได Framework & Design Pattern จะเกิดขึ้นมาไม่ได้เลยถ้าไม่มีแนวความคิดของเรื่อง 
OOP (Object Oriented Programming) มาก่อน 
ดังนั้น OOP จึงเป็น รากฐานความคิด ของ Framework & Design Pattern

Framework คือ อะไร ?
ถ้าพูดกัน เป็นภาษาชาวบ้านๆ Framework ก็คือกรอบ ในการเขียนโปรแกรม เพื่อให้ ทิศทางการเขียนโปรแกรม 
เป็นไปทางเดียวกัน ซึ่งรูปแบบ อะไรทำซ้ำๆ ก็ทำเป็น Framework เอาไว้ให้คนใช้กัน แบบนี้ก็ 
เป็น Framework ได้แล้ว

ถ้าจะเปรียบเทียบ กับการสร้างอาคาร Framework คือ พิมพ์เขียว
ส่วน Pattern คือ แปลนบ้าน นั่นเอง

ถ้าทางด้าน Programming เช่น MVC Framework, Dot Net Framwork, Spring MVC Framework
มีอีกเยอะแยะมากมาย 

Design Pattern คือ อะไร ?


Design Pattern จะมอง เหมือน Template ก็ได้ แต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว

Design Pattern เป็นหมือนข้อบังคับ ว่าถ้าคุณจะทำสิ่งนี้ ก็ต้องใช้สิ่งนี้ทำ และ ทำแบบนี้เท่านั้น
เช่น เด็กไทย ครบอายุ 15 ต้องทำบัตรประชาชน ทำน้องนี้
ในทาง Programming ก็เช่นกัน เช่น การประกาศตัวแปร ชื่อของ Function ให้ตั้งชื่อ ตาม 
Naming Convention ของ Camel หรือ Pascal (ลองหาอ่านดู นะ ว่า Camel กับ Pascal มีข้อกับหนดกันอย่างไร) 
ดังนี้ เป็นต้น

ทำไมต้องใช้ Design Pattern ?


เพราะ เป็นข้อกำหนดที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ง่ายต่อการเข้าใจ เพื่อนำไปปฎิบัติ

ทำไมใช้ Framework ยังไม่พอหรือไง ถึงต้องใช้ Design Pattern ด้วย ?
ไม่พอ ครับ เพราะ Framework เป็นแค่กรอบกว้างๆ ยังไม่ได้ Control ไปถึง Detail ในการลงมือ 
ปฏิบัติจริงๆ เพราะ Design Pattern จะบอกถึงรายละเอียด ที่ชัดเจนครับ
ดังนี้ Framework กับ Design Pattern ควรจะใช้ ร่วมกัน แล้ว งานทางด้าน Programming
จากงานใหญ่ๆ ก็จะกลายไปงาน เล็กๆ ที่นำมาต่อ กันครับ

ยกตัวอย่าง 
ตึกใหญ่ๆ ครับ มันก็คือ ชินส่วนเล็กของ อิฐ แต่ละก่อน มาต่อกัน ครับ
ดังนั้น Framework และ Design Pattern จึงหนีไม่พ้น แนวคิด ของ OOP และ Framework ของ ภาษาโปรแกรมนั้นๆ ครับ 
เพราะถ้าขาดหัวใจหลัก สองตัวนี้ ก็จะไม่มี Framework และ Design Pattern ขึ้นมา

ข้อดีของการใช้ Framework และ Design Pattern 
- ทำให้ทีมพัฒนาโปรแกรม เขียน Code ไปในทิศทางเดียวกัน
- ทำให้ Maintain Code ภายหลังได้ง่ายขึ้น แล้ว ใช้เวลาส้้นลง ปวดหัวน้อยลง ค่าใช้จ่ายลดลง
- Programmer มือใหม่ สามารถทำงาน ตามรุ่นพี่ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะ ทุกๆ Application
  ถูกพัฒนา ด้วย Framework เดียวกัน
- Framework เป็นสากล ที่ทั่วโลกใช้ กัน ไม่ได้ เป็นแบบ มวยวัดอีกต่อไป
- ป้องกันความเสี่ยง ของ Project ล่ม เพราะคนเก่า ลาออก 
- ช่วยให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ สามารถเขียนโปรแกรม ให้มีประสิทธิภาพเท่าคนมีประสบการณ์มากได้
- ช่วย องค์กรลดความเสี่ยงเรื่อง พนักงานลาออก แล้ว หาพนักงานใหม่มาแทน เพื่อให้ทำงานได้เท่า      คนที่ ลาออกไป อย่างนี้เป็นต้น

ข้อดี ของ Design Pattern กล่าวโดยหลักแล้ว มีดังนี้
  1. งานเสร็จเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของ ธุรกิจได้เร็ว (Productivity)
  2. ความน่าเชื่อถือ(Reliability) ของโปรแกรมมีมากขึ้น (ไม่มี Bug)
  3. ความคงทน (Robust) หมายถึง แก้จุดนึง แล้วไม่หระทบไปยังจุดอื่นๆ
  4. ยืดหยุ่นสูง (Flexibility) ความยืดหยุ่น 
      เช่น ให้คนที่มาใหม่ยังไม่รุ้อะไร มากนัก ก็สามรถแก้โปรแกรมได้แล้ว
      แค่ให้เข้าใจว่า Pattern นั้นทำงานอย่างไร 
หรือ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น
      สามารถทำให้หา Root Cause ของปัญหานั้นได้เร็ว

 5. ต้นทุนต่ำ (Low Cost) เช่น การจ้าง Programmer ที่มีประสบการณ์น้อยๆ
     ค่าตัวไม่สูงมากนัก มาทำงาน 
ก็ได้งานเท่าคนที่ มีประสบการณ์สูงค่าตัวแพง

ขั้นตอนการเรียน Advance ASP.NET MVC (Multi UI / Database)

ความรู้ที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้

     1. Basic OOP 
    2. HTML
    3. Razor
    4. Javascript
    5. Jquery
    6. Extjs
    7. Json Format
    8. C#
    9. ASP.NET MVC Framework (ไม่ได้ผูกติดอยุ่ กับ Version ไดๆ)
    10.Design Pattern แยกจากกัน ระหว่าง ฝั่ง Client กับ ฝั่ง Server
    11.แนวคิด แบบ OOP ในการเขียนโปรแกรม 
    12.มี Class ที่ทำงานได้กับ Database หลายตัว ใน Module เดียวกัน
         ให้เอาไปใช้แบบง่ายๆได้เลย 
    13.มี Class แบบ Interface Class / Asbtract Class ร่วมกับ Expression 
         ให้เอาไปใช้แบบง่ายๆได้เลย
    14.มีรูปแบบ การเขียน Code เพื่อทำงานกับ Database และ Mapping 
         ข้อมูลระหว่าง Database มายัง View ด้วย Json Format 
         โดยไม่ยึดติดอยู่กับ Database ค่ายใดค่ายหนึ่ง
    15.ปูพื้นฐาน ของ SOA (Service Oriented Architecture) ให้ตอนท้าย ของการสอน                 

          ความรู้ที่จะได้จากการเรียนเรื่องนี้
            1. แนวความคิดของ SOA
            2. Web Service ที่ทำงานผ่าน Service Bus
            3. JSON Format
       
         


หลักสูตรนี้เหมาะกับใคร ??

   1.  เหมาะกับนักศึกษาที่กำลัง ทำ Project จบ
   2. เหมาะกับ Programmer มือใหม่ ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพตัวเอง ในการพัฒนาโปรแกรมให้เพิ่มขึ้น
   3. เหมาะกับ Developer ทุกๆคน ที่ต้องการลดปัญหางานเสร็จช้า แก้ไข Code ภายหลังได้ยาก
       ตามแก้ไขงานของคนอื่นที่ทำอะไรไว้ก็ไม่รู้
   4. เหมาะกับ Software Architecture , Senior Programmer , SA, Junior Programmer      


ประโยชน์ โดยตรงที่จะได้รับ จากการเรียนหลักสูตรนี้

    1. สามาถเอาไปวางแผนการทำงานให้ กับ Programmer เพื่อให้ทำงานได้เสร็จ ในเวลาสั้นๆ
    2. ช่วยลดปัญหา ที่เกิดจากคนในทีมไม่ค่อยคุยกัน
    3. ช่วยให้ทุกคนในทีม เขียนโปรแกรมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
    4. สามารถทำงาน คู่ขนานกันได้ในทุกๅ Role      
       เป็นต้น

ประโยชน์ ทางออ้มที่จะได้รับ จากการเรียนหลักสูตรนี้

  1. สามารถนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม กับ ทีม กับองค์กรได้
  2. ลด เวลา , ค่าใช้จ่าย,  การ Maintain , ลดความเสี่ยงหลายๆเรื่อง เช่น การลาออกของDeveloper

      Developer มี Skill ต่ำ แต่สามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพเท่ากับ คน Skill สุงได้  
  3. ได้รับรู้ถึงแนวคิด แบบวิเคราะห์ ด้วยหลักการของ OOP , Agile, Scrum Process, OOAD 
  4. ผู้ที่สนจะเป็น SA  สามารถ มาเรียนรู้ ใน Course การเป็น SA ที่ดีได้อย่างไร

 ดังนั้น
  ด้วยวิธีการทำงาน ตามหลักสูตรนี้ สามารถ ช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ลดลงได้ และ
  ผู้เรียน สามารถ เอาไปต่อยอดในการเขียนโปรแกรม ในที่ทำงาน 
 โดยใช้เวลาในการเขียนสั้นลง และ Maintain ง่าย และ รวดเร็ว ยิ่งขึ้น

หมายเหตุ
  ระว่างการทำ Work Shop จะใช้ Design Pattern ในการเขียนโปรแกรม 
  ซึ่งมีทุกอย่างครบถ้วน สมบูรณ์อยู่แล้ว สามาถนำไปใช้ได้ทันที

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[Android] วิธีการดึง Database เข้า/ออกจาก Internal storage

หลายๆคนในที่นี้น่าจะมีประสบการณ์การใช้เจ้าตัว SQLite3 กันมาบ้าง ในที่นี่ผู้เขียนจะขอละวิธีการสร้าง DB ออกไปก่อนนะครับ เอาเป็นว่าขอติ๊ต่างว่าทุกคนสามารถสร้างกันเป็นอยู่แล้วล่ะ โดย Default แล้ว ก้อน DB ที่เราสร้างมันจะไปอยู่ใน Internal path ของแอพ เราไม่สามารถจะ access เข้าไปดูได้
ถ้าเจ้าตัวเครื่อง Device เราไม่ได้ Root   โดยปกติจะอยู่ใน 

data/data/<Package name ของแอพเรา>/databases/ชื่อ database.db 

แต่ถึงกระนั้น Google ก็ยังใจดีมีวิธีการให้เราเอาเจ้าก้อน DB ที่อยู่ข้างในออกมาดู วิธีการนั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

ก่อนอื่นให้เราเปิดเจ้าตัว Android Manifest file ของ Project เราขึ้นมาก่อน จากนั้นให้ Attribute นี้เข้าไปที่ <application>

android:debuggable="true"

ใครไม่ชัวร์ดูตามรูปเลย


จากนั้นทำการ run Application เราปกติ
เมื่อมั่นใจว่า Database มีการสร้างแล้วแน่ๆ ให้เราทำการ shell เข้าไปที่ Device โดยไปที่ Android SDK path ของเครื่องเราก่อน

จากนั้นใช้คำสั่ง 

adb shell -d 

เมื่อ shell เข้ามาแล้วใช้คำสั่ง
run-as <ตามด้วยชื่อ Package name ของ แอพเรา>

ในที่นี้ผู้เขียนของสมมติว่า Package name ของ แอพผู้เขียนเป็นตัวนี้ละกัน  com.example.google.android
และชื่อ Database เป็น google.db

ก็ลองใช้คำสั่งตามเลยจะได้เป็น

run-as com.example.google.android

เท่านี้เราก็เข้ามาล้วงแคะแกะเกาในส่วนของ Internal Storage ของแอพเราได้แล้ว แต่เฉพาะแอพเรานะที่เราเข้ามาเล่นซนได้  พอเห็นภาพแล้วใช้มั๊ยครับ ถึงจุดนี้จะเอา database  ออกมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ใช้คำสั่ง

cat /data/data/com.example.google.android/databases/google.db > /mnt/sdcard/google.db
ใช่แล้วจ้าผู้เขียน Copy มันไปไว้ที่ SDCard นั่นเอง

เท่านี้ก็เอาออกมาได้ละ 


แล้ววิธีการเอาเข้าล่ะ  Step ก็คล้ายๆกัน ต่างตรงที่สลับ Path กันแค่นั้น  อย่าลืมเอา DB ไปวางไว้ใน SDCard ก่อนเน้อ

cat /mnt/sdcard/google.db > /data/data/com.example.google.android/databases/google.db 

เอาไปลองประยุต์ใช้กันดูนะครับ